อัจฉริยะที่โลกลืม
ชะตะชีวิตของมนุษย์เราบางคนหักเหและแปรเปลี่ยนจนเกินกว่าที่เราจะคาดเดากันได้ บางคนมีสติปัญญาล้ำเลิศเข้าขั้นอัจฉริยะ แต่แทนที่จะมีความมั่งคั่งสุขสบายจากผลแห่งปัญญา ก็กลับถูกโชคชะตาเล่นตลกเพราะถูกเขาโกง หรือหักหลังจนสิ้นเนื้อประดาตัว อย่างเช่นอัจฉริยะที่ถูกลืมชื่อ นิโคลา เทสล่า เป็นต้น
นิโคลา เทสล่า เป็นผู้ประดิษฐ์ไดนาโม สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าสลับ ที่มีความสำคัญยิ่งต่อไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ชีวิตมีขึ้นมีลง
เทสล่า เป็นลูกของนักบวชชาวโครเอเชีย เกิดเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1856 จบปริญญาทางวิศวกรรมจากมหาวิทยาลัยกราซ (Graz) ในออสเตรีย และในปี ค.ศ. 1884 ได้อพยพไปสร้างหลักปักฐานที่สหรัฐอเมริกา แต่สิ่งที่เขาค้นพบก็คือ การเจรจาทางธุรกิจที่ไร้สัจจะและการหลอกลวงจนช่วงหนึ่งยากจนมากถึงกับต้องไปทำงานเป็นกุลีขุดดิน
แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก โชคชะตาก็ช่วยให้เขาได้กลับกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงโลกเลยทีเดียว เพราะด้วยการมีสายตากว้างไกลทางวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญทางวิศวกรรม เขาได้นำแสงสว่างและพลังงานไฟฟ้าให้กับคนเป็นจำนวนล้าน ๆ การค้นพบของเขาเทียบได้กับไมเคิลฟาราเดย์ และโธมัน เอดิสัน แต่ผู้คนกลับไม่รู้จักเขา นับเป็นเรื่องเศร้าสำหรับคน ๆ หนึ่งที่สร้างความสำเร็จไว้เป็นอันมาก แต่ก็สิ้นชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและถูกลืม เป็นบทเรียนชีวิตที่จะสอนเราว่า ความอัจฉริยะเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถเป็นเครื่องประกันได้ว่าจะมีชื่อเสียงและเงินทองเสมอไป
วันพุธ, มีนาคม 03, 2553
วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 26, 2553
อาการปวดศีรษะไมเกรนกับการมีรอบเดือน

โดยเฉลี่ยแล้ว มีสถิติออกมาว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีอาการปวดศีรษะข้างเดียวหรือที่เรียกว่าไมเกรน (Migraines) จะเป็นผู้หญิง และใน 60 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มนี้ จะมีอาการปวดศีรษะและเกิดขึ้นในช่วงที่มีรอบเดือน
ารปวดศีรษะของสาวๆ มีผลพวงที่เกิดมาจากการเปลี่ยนแปลงระดับที่ลดต่ำลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตจากรังไข่ ในระหว่างหรือหลังการมีประจำเดือนนั่นเองค่ะ อาการนี้มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่อายุประมาณ 14 ปีขึ้นไป โดยปวดศีรษะข้างเดียว ลักษณะปวดเป็นแบบปวดตุ้บๆ หรือแปล๊บๆ ตำแหน่งที่ปวดอาจจะแตกต่างกัน เช่น กระบอกตา ขมับท้ายทอย หรือทั่วศีรษะ หรือสลับข้างซ้ายขวาอย่างรุนแรง บางครั้งอาจทำให้คลื่นไส้หรืออาเจียนได้
วิธีในการป้องกันและลดความรุนแรง ควรเริ่มจากการออกกำลังกายเป็นประจำ สม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านความเจ็บปวด หรือที่เราคุ้นเคยกับคำว่า เอ็นดอร์ฟิน นั่นเองค่ะ เอ็นดอร์ฟินมีโครงสร้างคล้ายกับโครงสร้างของมอร์ฟีนจึงมีสรรพคุณเหมือนเป็นยาแก้ปวดอย่างดีเลยทีเดียว ขณะเดียวกันการออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้นอนหลับสบาย ระบบฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายปรับตัวสมดุล เมื่อภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลในช่วงมีประจำเดือนลดลง จะส่งผลให้อาการปวดศีรษะไมเกรนลดลงด้วย
นอกจากนั้นควรลดตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดไมเกรนลง เช่น ลดความเครียด ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ รับประทานยาในกลุ่มแอนตี้พรอสตาแกลนดินที่ช่วยลดอาการปวดศีรษะไมเกรนในช่วง ที่มีประจำเดือนได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา โดยเฉพาะผู้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหารนะคะ
ใน การรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรนช่วงที่มีรอบเดือน ควรจะดูแลเรื่องการรับประทานอาหารเพิ่มเติมด้วย มีตัวอย่างอาหารบางประเภทที่เป็นของโปรดของสาวๆ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันอาการปวดดังนี้ค่ะ
-กาเฟอีน มักจะพบในชาและกาแฟ
-สารแทนนินและไทรามีน สารแทนนินเป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในอาหาร เช่น ชา กาแฟ ช็อกโกแลต ไวน์แดง ส่วนสารไทรามีนเป็นสารลดระดับ
เซโรโทนินในร่างกาย ซึ่งมีอยู่ในกล้วยสุกงอม ช็อกโกแลต เบียร์ เมล็ดพืชบางประเภท และถั่วต่างๆ
-เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
-น้ำตาลเทียม ผงชูรส และสารเจือปนอาหารอื่นๆ
ส่วนอาหารที่ช่วยลดความรุนแรงและความถี่ของไมเกรน ได้แก่ อาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม เนยแข็ง
วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 16, 2553
เตือนภัยจาก ยาทาเล็บ

สัญญาณ เบื้องต้นที่บ่งบอกความเป็นอันตรายของยาทาเล็บคือกลิ่นเหม็นรุนแรงที่โชยออก มาเมื่อเปิดฝา อันเกิดจากการผสมกันของแอลกอฮอล์ โซลเวนต์หรือสารอินทรีย์ระเหยที่ใช้เป็นตัวทำละลายซึ่งช่วยให้ยาทาเล็บแห้ง เร็ว และเรซิ่นที่ทำให้สีของยาทาเล็บติดทนทาน ไม่ลอกล่อนโดยง่าย
* มีสารพิษ 3 ชนิดปะปนอยู่ในยาทาเล็บทั่วไป คือ ไดบิวทิล พทาเลต สารประกอบไทลูอิน และฟอร์มาลดีไฮด์
* ไดบิวทิล พทาเลต เป็นปัจจัยเพิ่มอัตราการเป็นหมันในหญิงและชาย ในระยะยาวจะส่งผลต่อไตและตับ
* ไท ลูอิน ไม่เพียงรบกวนการเจริญเติบโตและระบบสืบพันธุ์ แต่ยังสร้างความระคายเคืองผิวหนังและส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เหนื่อย สับสน และสูญเสียความทรงจำ หากสูดดมมากๆ จะมีอาการหน้ามืด ตาลาย ปวดศีรษะ
* ฟอร์มา ลดีไฮด์ หากสัมผัสกับผิวหนังจะปรากฏเป็นผื่นแพ้และคัน หากสูดดมเข้าไปในระยะสั้นจะสร้างความระคายเคืองในลำคอและไอ ในระยะยาวทำให้เป็นมะเร็งในระบบทางเดินหายใจ
* สีในยา ทาเล็บส่วนใหญ่เป็นสีสังเคราะห์ ส่วนยาทาเล็บที่ผลิตด้วยสีธรรมชาติก็จำเป็นต้องเติมแร่ไมกาเพื่อเพิ่มประกาย แวววาว สิ่งที่คุณอาจไม่รู้ก็คือ การทำเหมืองไมกามีการใช้แรงงานเด็กและผู้หญิง
* นอกจาก ยาทาเล็บแล้ว น้ำยาล้างเล็บก็อันตรายไม่เบา ยิ่งทาเล็บติดทนนานเพียงใด ยิ่งต้องใช้น้ำยาที่ผสมด้วยตัวทำละลายเข้มข้นสูง จึงมีฤทธิ์มากพอจะล้างสีออกจากเล็บได้ง่ายดาย
* น้ำยาล้างเล็บส่วนใหญ่มีส่วนผสมสารเคมี 2 ชนิด คือ อะซิโตน และเอทิลอะซิเตต ซึ่งต่างก็สร้างความระคายเคืองแก่ดวงตาและระบบทางเดินหายใจ ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้ผิวหนังแห้งและลดทอนความแข็งแรงของเล็บอีกด้วย
วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 13, 2553
ดอกไม้ วันวาเลนไทน์

มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อใน การแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่ม สาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลาย รูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย
• กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
•กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น
•กุหลาบดำ หมายถึง ความรักนิรันดร์
•กุหลาบแดง (red rose) : จะใช้ ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ" การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความ หมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน
•กุหลาบขาว (white rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์ กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้
•กุหลาบชมพู (pink rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรัก ที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้
•กุหลาบเหลือง (yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส กุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความ สนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง
•สำหรับดอกไม้อื่น ๆ ที่ถูกมาใช้แทนความหมายแห่งความรักก็มี ดอกทิวลิบสีแดง (red tulib) ชาวตะวันตกใช้มันแทนการประกาศความรัก อย่างเปิดเผย คล้าย ๆ กับดอกกุหลาบแดง
•ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู (pink carnation) ใช้สื่อความหมายว่า "ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ"
•ดอกลิลลี่สีขาว (white lilly) แสดงความรักแบบบริสุทธ์ เช่นเดียวกันกับดอกกุหลาบขาว นอกจากนั้นลิลลี่สีขาวยังแสดงถึงความรักแบบอ่อนหวานจริงใจ และเทอดทูน และมักถูกใช้แทนประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้ได้รู้จัก และอยู่ใกล้คุณ "
•สำหรับดอก forget-me-not มีความหมายตรงตัวคือได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน
•มาถึงดอกไม้ที่เห็นได้ทั่วไปในบ้านเราบ้างดอกทานตะวัน (sunflower) มีความหมายถึงความรักแบบคลั่งไคล้ ความรักแบบบูชา แต่สำหรับชาวตะวันตก ดอกทานตะวันจะหมายถึงความเข้มแข็งอดทน จึงสามารถใช้แทนความรักที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะได้ความรักมา
วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 08, 2553
รู้จักเส้นเลือดและวิธีหยุดเลือด

เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้แม้ไม่ประมาทและมักทำให้เกิดเลือดตกยางออกอยู่เสมอ ขอแนะนำวิธีการห้ามเลือดอย่างถูกต้อง แต่ก่อนจะเรียนรู้เทคนิคการห้ามเลือด เราควรทราบเรื่องราวของเส้นเลือดก่อน
เส้นเลือดแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ประกอบด้วย
เส้นเลือดแดง
เป็นเลือดที่ไหลออกมาจากหัวใจเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากเกิดแผลที่ทำให้เลือดออกจากเส้นเลือดชนิดนี้จะห้ามเลือดยาก โดยเลือดจะทะลักออกตามจังหวะการเต้นของหัวใจ เลือดจะเป็นสีแดงและไม่เกิดลิ่มเลือด
เส้นเลือดดำ
เมื่อเกิดแผลเลือดที่ไหลออกมาจะมีสีคล้ำ ไหลแบบริน ๆ ไม่เร็ว ไม่ช้า เนื่องจากเป็นเลือดที่อวัยวะต่าง ๆ ใช้ออกซิเจนแล้วกำลังส่งกลับไปยังหัวใจ
เส้นเลือดฝอย
เส้นเลือดที่เชื่อมโยงเป็นตาข่ายระหว่างเส้นเลือดแดงกับเส้นเลือดดำ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักเป็นแผลแล้วเลือดออกจากเส้นเลือดชนิดนี้ โดยเลือดจะซึมออกมาช้า ๆ สามารถห้ามเลือดได้ง่าย
วิธีการห้ามเลือด ทำ ได้ง่ายที่สุดคือการใช้นิ้วหรือฝ่ามือกดลงบริเวณปากแผล ซึ่งจะต้องเป็นแผลถลอก ขนาดเล็ก ตื้น ๆ แต่ถ้าสามารถหาสำลีหรือผ้าสะอาดก็ให้นำมาใช้ปิดปากแผลเพื่อปฐมพยาบาลเบื้อง ต้น หากแผลใหญ่เลือดไหลออกมาก ควรใช้วิธีขันชะเนาะ และควรคลายเชือกทุก 15 นาที เพื่อให้เลือดสามารถไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ได้ อย่างไรก็ตาม การขันชะเนาะนิยมใช้เมื่อบาดแผลเกิดขึ้นบริเวณแขนหรือขา
วิธีขันชะเนาะ เริ่ม จากใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าที่หาได้พับเป็นเบาะสี่เหลี่ยมวางบนเส้นเลือด แดงบริเวณแขนหรือขา จุดที่คลำชีพจรพบ จากนั้นใช้ผ้าหรือเชือกพันรอบแขนหรือรอบขาบนเบาะราวสองรอบแล้วผูกเงื่อน 1 ครั้ง สอดท่อนไม้ก่อนผูกเงื่อนตายซ้ำอีกทบ
ลำดับต่อมาให้หมุนท่อนไม้ไปรอบ ๆ เงื่อนที่ผูกไว้อีกหลายครั้ง ถือเป็นการขันชะเนาะจนเลือดหยุดไหล แล้วผูกปลายอีกด้านของท่อนไม้เข้ากับแขนหรือขาป้องกันเกลียวคลายหลุดออก.
วันพุธ, กุมภาพันธ์ 03, 2553
ความสะอาดของห้องน้ำสาธารณะ

ขึ้นชื่อว่า 'ห้องน้ำสาธารณะ' ย่อม อธิบายภาพของการเป็นสถานที่ให้บริการที่เป็นของใช้ส่วนรวมได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าการใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ เช่น ตามห้างสรรพสินค้า และสวนสาธารณะต่างๆ ในปัจจุบันต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะยังขาดมาตรฐาน เนื่อง จากการใช้บริการห้องน้ำสาธารณะมีความเสี่ยงในการติดโรคได้ เพราะห้องน้ำสาธารณะส่วนใหญ่มีผู้คนมาใช้บริการมากหน้าหลายตา ทำให้ไม่ค่อยสะอาด และมีโอกาสที่จะติดโรคได้ เช่น เริม ซึ่งพิสูจน์ยากว่าติดต่อจากการใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งเป็นโรคที่สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นส่วนใหญ่ ถ้าผู้ใช้บริการห้องน้ำสาธารณะมีแผลเริมอยู่ ถ้าแผลเปิด และเมื่ออีกคนเข้าไปใช้ต่อทันที ก็มีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อได้
นอกจากนี้เชื้อโรคอื่นๆ เช่น อหิวาตกโรค หรือไข้รากสาด ถ้าคนที่เข้าห้องน้ำถ่ายอุจจาระแล้วไม่ได้ล้างมือให้สะอาด เกิดมีอุจจาระปนเปื้อนบริเวณมือ เมื่อมือไปจับก๊อกน้ำและจับลูกบิด คนที่ไปจับต่อมาแล้วไปสัมผัสถูกปากหรือน้ำลายก็มีโอกาสได้รับเชื้อเช่นกัน
ส่วนโอกาสที่จะได้รับเชื้อจากห้องน้ำสาธารณะที่มีทั่วไปในกรุงเทพฯ นั้น ต้องยอมรับว่าส่วนใหญ่ห้องน้ำสาธารณะส่วนใหญ่จะสกปรก ไม่มีน้ำราด น้ำไม่ไหล หรือแม้กระทั่งไม่มีถังทิ้งกระดาษชำระ ดังนั้นหากจะใช้บริการห้องน้ำสาธารณะต้องระมัดระวังถึงเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญไว้ด้วย
ส่วนวิธีการป้องกันเชื้อโรคจากห้องน้ำสาธารณะนั้น น้องๆ สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการรู้จัก ล้างมือและชำระล้างสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคจากร่างกายที่อาจได้รับจากการเข้า ห้องน้ำสาธารณะ ก่อนที่จะมาสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ขยี้ตา หรือจับปาก จับจมูกต้องล้างมือให้สะอาดเรียบร้อยก่อน ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
วันพุธ, มกราคม 27, 2553
ลอดช่อง สิงคโปร์

ใครจะรู้บ้างว่า คำว่า ลอดช่องสิงคโปร์นั้น แท้จริงแล้วต้นกำเนิดไม่ได้มาจากประเทศสิงคโปร์ แต่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยเรานี่เอง ที่ได้นำแป้งมันสำปะหลังมาปั้น และนวดให้เหนียว รับประทานกับกะทิสด และน้ำเชื่อม น้ำแข็งป่น ก็เพิ่มความสดชื่นให้กับผู้บริโภคได้แล้ว แต่หลายคนคงสงสัยว่าแล้วคำว่า สิงคโปร์ล่ะ มาจากไหน ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันจนติดปาก ถึงบริเวณที่ตั้งร้านนี้ ที่เป็นเจ้าแรก ในการทำ “ลอดช่องสิงคโปร์” นั่นเอง
เพราะ หากย้อนไปเมื่อประมาณ 60 ปีก่อน ร้านนี้บังเอิญไปตั้งอยู่บริเวณ หน้าโรงภาพยนต์สิงคโปร์ (เดิม) หรือโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราช และเมื่อลูกค้าจะไปทาน ก็มักจะเรียกว่า “ไปทานลอดช่องหน้าโรงหนังสิงคโปร์” สุดท้ายก็เรียกให้สั้นลงว่า “ลอดช่องสิงคโปร์” แทน
ส่งผลให้ร้าน “สิงคโปร์โภชนา” เป็นร้านต้นกำเนิดลอดช่องสิงคโปร์ ที่เรียกกันติดปากมาจนถึงปัจจุบัน โดยนายณรงค์ จักรธีรังกูร เจ้าของร้านสิงคโปร์โภชนา ได้ย้อนอดีตให้ฟังว่า ธุรกิจกิจนี้เป็นของผู้เป็นพ่อ โดยได้รับการถ่ายทอดสูตรมาจากเพื่อนอีกทีหนึ่ง ซึ่งรวมระยะเวลาที่ร้านลอดช่องสิงคโปร์เปิดบริการให้ลูกค้าได้ลิ้มลองก็ ประมาณกว่า 60 ปี โดยตั้งที่บริเวณแยกหมอมี ตรงข้ามธนาคาร UOB ถ.เจริญกรุง ซึ่งแต่เดิมเป็นโรงหนังสิงคโปร์ จนกระทั่งถูกรื้อทิ้ง สร้างใหม่เป็นโรงหนังเฉลิมบุรี
ร้าน ลอดช่องสิงคโปร์ โภชนานั้น ปัจจุบันได้กลายเป็นตำนานบนถนนเยาวราช เพราะไม่เพียงแต่ความเก่าแก่ที่ครองใจผู้บริโภคมานานกว่า 60 ปีแล้ว ร้านนี้ยังถูกทางสำนักงานเขตสัมพันธ์วงศ์ ได้ขอให้คงอยู่ไว้ เพราะถือว่าร้านนี้กลายเป็นตำนานและเป็นส่วนหนึ่งของเยาวราชที่ขาดไม่ได้ไป แล้ว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)