วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 15, 2554

10 อันดับคนอัจฉริยะที่สุดของโลก

10. Elaina Smith : ผู้ให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตอายุ 7 ขวบ

สถานีวิทยุท้องถิ่นได้เสนองานให้คำ ปรึกษาปัญหาชีวิตกับหนูน้อย Elaina เมื่อเธอโทร. เข้ามาให้คำแนะนำกับหญิงสาวคนหนึ่งที่โทร. มาปรึกษาสถานีเรื่องที่เธอถูกแฟนทิ้ง คำแนะนำง่าย ๆ ของ Elaina คือการบอกให้หญิงสาวผู้นั้นออกไปโยนโบว์ลิ่งกับเพื่อนและก็ดื่มนมสักแก้วนึง โต ๆ และนั่นทำให้เธอได้เวลาจัดรายการแก้ปัญหาชีวิตรายสัปดาห์จากสถานีจนได้รับความนิยมจากผู้ฟังนับพัน เธอรับปรึกษาตั้งแต่ปัญหาเรื่องจะทิ้งแฟนอย่างไร จะทำยังไงเมื่อเลิกกับแฟน ไปจนกระทั่งปัญหากลิ่นตัวของพี่น้องในบ้าน ครั้งหนึ่งได้มีคนฟังโทรศัพท์มาถาม Elaina ว่าทำยังไงเธอถึงจะได้แฟนของเธอกลับมา หนูน้อยบอกไปว่า ” ผู้ชายคนนั้นไม่มีค่าพอที่จะคร่ำครวญถึง ชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะไปเศร้าโศกถึงผู้ชายแค่คนเดียว”


9. Willie Mosconi: เริ่มชีวิตนักบิลเลียดอาชีพเมื่ออายุเพียง 6 ขวบ

William Joseph Mosconi หรือเจ้าของฉายา “Mr. Pocket Billiards” (pocket billiard = พูล) หนูน้อยจาก Philadelphia, Pennsylvania มีบิดาเป็นเจ้าของโต๊ะพูลแต่กลับไม่ยอมให้เขาเล่นพูล แต่ Willie ก็ไม่ยอมแพ้โดยเลี่ยงไปฝึกฝนด้วยหัวมันฝรั่งกับด้ามไม้กวาดเก่า ๆ ในครัวของแม่ ไม่นานนักพ่อของเขาก็ได้เห็นความเป็นอัจริยะ จึงได้จัดให้มีการแข่งขันท้าประลองเกิดขึ้น และ Willie ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งที่มีอายุและประสบการณ์เหนือกว่าตนเองมากมายได้ ทั้ง ๆ ที่เขายัง ต้องยืนบนกล่องต่อขาเพื่อให้สูงถึงโต๊ะจนเล่นได้ก็ตาม ใน ปี 1919 ได้มีการจัดการแข่งขันระหว่างหนูน้อย Willie วัย 6 ขวบและแชมป์โลกอย่าง Ralph Greenleaf แม้ Greenleaf จะเป็นผู้ชนะแต่ Willie ก็เล่นได้ดีมากและทำให้เขาก้าวเข้าสู่วงการบิลเลียดอาชีพตั้งแต่บัดนั้น และในปี 1924 Willie ก็ได้เป็นแชมป์ straight pool (พูล 15 ลูก) เยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี และมีงานเดินสายโชว์เทคนิคการเล่นอย่างสม่ำเสมอ ใน ช่วงปี 1941-1957 Willie ก็ได้ครองแชมป์ BCA (Billiard Congress of America) World Championship ถึง15 สมัย เป็นผู้ริเริ่มเทคนิคใหม่ ๆ ในการตีบิลเลียด สร้างสถิติมากมาย และยังช่วยทำให้กีฬาบิลเลียดกลายเป็นที่นิยมอีกด้วย ปัจจุบันเขาก็ยังเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดในการตีลูกได้ติดต่อกัน ถึง 526 ลูกในการแข่งขัน Straight Pool


8. Fabiano Luigi Caruana: แกรนมาสเตอร์หมากรุกอายุน้อยที่สุด

Fabiano หนุ่มน้อยสองสัญชาติ (อเมริกัน-อิตาลี) ปัจจุบันอายุ 16 ปี เขาได้เป็นแกรนมาสเตอร์ตั้งแต่ปี 2007 ตอนนั้นเขามีอายุเพีย 14 ปี 11 เดือน 20 วัน ถือได้ว่าอายุน้อยที่สุดในประวัติศาตร์ของอิตาลีและอเมริกา และเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาสมาพันธ์หมากรุกโลก (World Chess Federation (FIDE)) ได้ประกาศว่า Fabiano นั้นมีอันดับโลกอยู่ที่ 2649 ทำให้ เขากลายเป็นนักหมากรุกที่มีอันดับสูงสุดสำหรับรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี

7. Michael Kevin Kearney: รับปริญญาใบแรกเมื่ออายุ 10 ขวบและกลายเป็นเศรษฐีจากการเล่นเรียลลิตี้โชว์

หนุ่มวัย 24 ผู้นี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นผู้ที่เรียนจบมหาวิทยาลัยที่อายุน้อยที่สุดในโลก และเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเมื่ออายุเพียง 17 ในปี 2008 เขาชนะรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐจากการเล่นเกมโชว์ที่ชื่อว่า Who Wants to be a Millionaire? นอกจากนี้เขายังทำสถิติโลกไว้อีกหลายอย่าง Kearney เริ่มพูดคำแรกเมื่ออายุ 4 เดือน เมื่ออายุได้ 6 เดือน เขาบอกกับกุมารแพทย์ของเขาว่า “ผมติดเชื้อที่หูซ้ายฮะ” อายุ 10 เดือนก็เริ่มเรียนเขียนอ่าน อายุ 4 ขวบได้เข้าร่วมการทดสอบทางคณิตศาสตร์ของสถาบัน Johns Hopkins และได้คะแนนเต็ม เรียนจบไฮสคูลเมื่ออายุ 6 ขวบ และเข้าเรียนที่ Santa Rosa Junior College จนจบปริญญาเมื่ออายุ 10 ขวบ ในปี 2006 ชื่อเสียงของเขาดังไปทั่วโลกเมื่อเขาเล่นเกมออนไลน์ Gold Rush จนชนะและได้รางวัล 1 ล้านเหรียญเป็นคนแรก


6. Saul Aaron Kripke: Harvard( มหาวิทยาลัยอันดับ1 ของโลก) เชิญให้ไปสมัครเป็นอาจารย์ขณะที่ยังเรียนไฮสคูล

Kripke เป็นลูกชายของพระแรบไบ เกิดที่นิวยอร์คและโตที่ Omaha รัฐ Nebraska เริ่มศึกษาพีชคณิตเมื่อตอนอยู่เกรด 4 และพอจบชั้นประถมก็เรียนรู้เรขาคณิตและแคลคิวลัสจนทะลุปรุโปร่ง และเริ่มหันไปให้ความสนใจกับปรัชญา Kripke เขียนบทความหลายชิ้นทั้งในเรื่องของอรรถศาสตร์ (semantics) และตรรกวิทยาแบบ modal logic ในขณะที่มีอายุเพียง 16 ปี และหนึ่งในผลงานด้านตรรกวิทยานั้นทำให้เขาได้รับจดหมายเชิญจากภาควิชา คณิตศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เชิญชวนให้เขาไปสมัครเป็นอาจารย์ ซึ่งเขาก็ได้เขียนตอบปฎิเสธไปว่า “แม่ผมบอกว่าให้ผมเรียนให้จบไฮสคูลและมหาวิทยาลัยเสียก่อนดีกว่า” และเมื่อเขาเรียนจบไฮสคูลเขาก็เลือกเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ด Kripke ได้รับรางวัล Shock Prize ซึ่งเป็นรางวัลทางด้านปรัชญาที่เทียบได้กับรางวัลโนเบล ปัจจุบันเขาได้รับการยกย่องว่า เป็นปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่


5. Aelita Andre : หนูน้อยที่มีผลงานภาพออกแสดงในแกลลอรี่มีชื่อเสียง ด้วยวัยเพียง 2 ขวบ

ศิลปินแนว Abstract อายุเพียง 2 ขวบผู้นี้ได้กลายเป็นบุคคลที่ชาวออสเตรเลียกล่าวถึงเป็นอันมาก เมื่อผลงานของเธอได้ออกแสดงใน Brunswick Street Gallery ใน Melbourne’s Fitzroy Mark Jamieson ผู้อำนวยการของแกลลอรี่ดังกล่าวได้เห็นภาพที่ Nikka Kalashnikova นักถ่ายภาพคนหนึ่งที่มีงานแสดงในแกลลอรีนำมาให้ดูและเขาก็ชอบจนตกลงใจที่จะ จัดการแสดงภาพเหล่านั้น จนเมื่อได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์งานในนิตยสารต่าง ๆ แล้ว เขาจึงได้ทราบว่าเจ้าของผลงาน คือลูกสาวของ Kalashnikova นั่นเอง และมีอายุเพียง 22 เดือน แม้ Jamieson รู้สึกอับอายไม่น้อย แต่ก็ตัดสินใจที่จะแสดงผลงานของหนูน้อยต่อไป


4. Cleopatra Stratan : นักร้องเด็กอายุเพียง 3 ขวบ มีรายได้ 1,000 ยูโรต่อเพลง (47,000-48,000 บาท)

Clepotra เกิดเมื่อ 6 ตุลาคม 2002 ที่เมืองคีชีเนา ประเทศมอลโดวา เป็นลูกสาวของนักร้องเชื้อสายมอลโดวา-โรมาเนีย เธอเป็นนักร้องอายุน้อยที่สุดที่ประสบความสำเร็จด้วยอัลบั้มในปี 2006 ของเธอที่ชื่อว่า”At the age of 3″ และยังเป็นเจ้าของสถิติศิลปินอายุน้อยที่สุดที่เปิดการแสดงสดตลอด 2 ชั่วโมงต่อหน้าผู้ชมจำนวนมาก เป็นศิลปินเด็กที่ค่าตัวสูงสุด เป็นศิลปินอายุน้อยที่สุดที่จะได้รับรางวัล MTV และเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่มีเพลงติดชาร์ตอันดับหนึ่งในประเทศโรมาเนีย


3. Akrit Jaswal : ศัลยแพทย์อายุ 7 ขวบ

Akrit Jaswal เป็นชาวอินเดีย และได้รับการขนานนามว่า “เด็กผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก” เพราะมี IQ ถึง 146 และได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในเด็กที่อายุเท่า ๆ กันในอินเดีย ประเทศที่มีประชากรนับพันล้านคน
Akrit กลายเป็นจุดสนใจของสาธารณะในปี 2000 เมื่อเขาได้ทำการรักษาคนไข้คนแรกที่บ้านของเขาเองเมื่อมีอายุเพียง 7 ขวบ คนไข้เป็นเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ มีฐานะยากจนไม่มีเงินพอที่จะไปหาหมอได้ มือของเธอถูกไฟลวกทำให้นิ้วมือกำแน่นติดกัน Akrit ในตอนนั้นยังไม่ได้เรียนแพทย์อย่างเป็นทางการและยังไม่มีประสบการณ์ในการผ่า ตัดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เขาก็สามารถทำให้นิ้วมือของเด็กหญิงคลายออกมาได้และใช้มือได้เป็นปกติอีก ครั้ง ขณะนี้ Akrit กำลังเรียนปริญญาตรีวิทยาศาสตร์อยู่ที่ วิทยาลัย Chandigarh และเป็นนักศึกษาที่อายุน้อยที่สุดที่มหาวิทยาลัยอินเดียเคยรับเข้าเรียน


2. Gregory Smith: ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่ออายุ เพียง 12 ปี

Gregory เกิดในปี 1990 อ่านหนังสือออกตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 10 ขวบ ความเป็นอัจฉริยะของเขานั้นยังไม่ได้ครึ่งของเรื่องราวของเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อเขาตัดสินใจออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรณรงค์เรื่องสันติภาพและสิทธิ เด็ก Gregory Smith เป็นผู้ก่อตั้ง International Youth Advocates ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนหลักการแห่งสันติภาพและความเข้าอกเข้าใจในระหว่างเยาวชนทั่วโลก เขาเคยได้พบกับผู้นำคนสำคัญอย่าง Bill Clinton และ Mikhail Gorbachev และยังเคยปฐกถาต่อหน้าที่ประชุม UN อีกด้วย
จากการทำงานด้านมนุษยธรรมนี้ ทำให้เขาได้ถูกเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพถึง 4 ครั้ง แต่ความสำเร็จครั้งล่าสุดที่เขาเพิ่งได้รับคือ…มีใบขับขี่เป็นของตัวเองได้ซะทีนั่นเอง


1. Kim Ung-Yong: เข้ามหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 4 ขวบ จบปริญญาเอกตอนอายุ 15 และมี IQ สูงที่สุดในโลก

Kim Ung-Yong เกิดในปี 1962 และอาจจะถือได้ว่าเป็นมนุษย์ที่ฉลาดที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ โดย Guinness Book of World Records ได้บันทึกว่าเขามี IQ สูงที่สุดในโลกคือสูงกว่า 210 คิมอ่านภาษาญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมัน และอังกฤษ ได้ตั้งแต่ 4 ขวบ ตอนวันเกิดครบ 5 ขวบ เขาก็สามารถแก้โจทย์แคลคิวลัส (differential and integral calculus) ที่ซับซ้อนได้ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ไปออกรายการทีวีญี่ปุ่นแสดงสามารถทางภาษาจีน สเปน เวียดนาม ตากาลอก เยอรมัน อังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลี คิม เป็นนักเรียนรับเชิญในชั้นเรียนวิชาฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัย Hanyang ตั้งแต่อายุ 3 – 6 ขวบ พออายุ 7 ขวบ NASA ได้เชิญเขาไปอเมริกาและเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Colorado ในปี 1974 จนได้ Ph.D ด้านฟิสิกส์ ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะมีอายุครบ 15 เสียอีก ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยเขาก็เริ่มทำงานวิจัยที่ NASA ด้วย และทำต่อมาตลอดจนกระทั่งเขากลับเกาหลีในปี 1978 และได้ตัดสินใจเปลี่ยนสาขาจากฟิสิกส์ไปเป็นวิศวกรรมโยธาและได้ศึกษาจนได้รับ ปริญญาเอกอีกเช่นกัน

วันอังคาร, กุมภาพันธ์ 08, 2554

ช่วย "ตับ" ขับพิษด้วยอาหาร


เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า ตับ เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้น การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพตับเป็นประจำจะช่วยแบ่งเบาภาระให้ตับได้ ซึ่งการที่ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพย่อมส่งผลให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น

นอกจากหน้าที่ในการขับสารพิษแล้ว ตับยังช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นพลังงาน เมื่อร่างกายต้องการตับที่แข็งแรงจะส่งผลให้มีสุขภาวะที่ดี เพราะตับช่วยลดการติดเชื้อ โดยช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย เราจึงต้องดูแลตับด้วยการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เสียแต่วันนี้

อาหารอันดับต้นๆ ที่ช่วยตับในการล้างพิษได้แก่ กระเทียม หัวหอม มะนาว ผักใบเขียว ดอกกะหล่ำและกะหล่ำปลี เพราะจะทำให้สารพิษที่เจือปนมากับอาหารอื่นนั้นมีสภาพเป็นกลาง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มการผลิตน้ำดีซึ่งช่วยทำความสะอาดกระเพาะอาหารและลำไส้รวมถึงช่วยกระตุ้นให้ลำไส้มีการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว

ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงได้แก่ องุ่น ส้ม แคนตาลูป มะละกอ พรุน ลูกเกด ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ จะช่วยปกป้องตับจากสารอนุมูลอิสระที่จะมีปริมาณสูงขึ้นในกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย

นอกจากนี้อาหารที่มีวิตามินบีสูงอย่างธัญพืชที่ไม่ขัดสีต่างๆ และผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี อย่างพืชที่มีรสเปรี้ยวและผักใบเขียวทั้งหลาย จะช่วยในกระบวนการล้างพิษของตับ ส่วนอาหารที่เป็นพี่เลี้ยงช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับ ได้แก่ "เลซิติน" ซึ่งมีมากในไข่แดง ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เนื้อปลา ส่วน "ธาตุสังกะสี" ที่มีมากในเนื้อสับ ถั่วขาว เนื้อไก่และหอยนางรมก็ช่วยให้ตับทำหน้าที่ได้ดีขึ้น

หากจะดูแลรักษาตับอย่างเห็นผลก็ไม่ควรทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะตับสามารถผลิตคอเลสเตอรอลได้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอยู่แล้ว สิ่งสำคัญในการป้องกันอันตรายให้แก่ตับ และเพื่อหลีกเลี่ยงโรคตับแข็ง ก็ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้อวัยวะหนึ่งเดียวนี้ช่วยขับพิษให้ร่างกายได้อีกนาน

วันพุธ, มกราคม 19, 2554

การรักษาอาการ ไมเกรน ด้วยอาหาร


ไมเกรนคืออะไร
อาการปวดหัวแบบ ไมเกรน จะเป็นอาการปวดที่สร้างความรำคาญ ทรมานให้กับผู้ป่วย โดยจะมีตั้งแต่ระดับปานกลางไปจนถึงมากจนกระทบกับการดำรงชีวิตประจำวัน อาจจะมีอาการปวดตุ๊บๆ แถวขมับ หรืออาจจะจะปวดบริเวณเบ้าตาเหมือนหัวใจเต้นตุ๊บๆ ที่ปวดน้อยๆ มักจะไม่ใช่ ไมเกรน อาการปวด ไมเกรน อาจจะปวดได้นาน 2-3 วันหรืออาจจะปวด 2-4 ชั่วโมง และอาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน อาการปวด ไมเกรนเ วลาหายปวดจะหายสนิท อาการปวด ไมเกรน มักจะมีอาการนำมาก่อนที่จะเกิดอาการปวด เรียก Aura อาจจะเห็นแสงแวบ แสงจ้า ตาพร่ามัว ซึ่งเป็นช่วงสั้นๆ ก่อนจะมีอาการปวด ไม่แน่เสมอไปที่ว่าอาการปวดหัวข้างเดียวคืออาการปวด ไมเกรน อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น คอตกหมอน เนื้องอก เป็นต้น

สารอาหารที่มีหลักฐานการวิจัยว่าช่วยรักษาอาการไมเกรน

สารอาหารที่พบว่ามีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน

5-HTP

แคลซียม /แมกนีเซียม


Feverfew

Riboflavin (Vitamin B2)


สารอาหารที่พบว่าน่าจะมีผล

นอกจากนี้แล้วอาหารพวก วิตามินบี ก็มีรายงานว่าสามารถช่วยในรายที่มีอาการ ไมเกรน บ่อยได้ อีกทั้งการรับประทานอาการพวกปลาซึ่งจะมีสารอาหาร Omega-3 ก็จะทำให้ลดการเกิดอาการ ไมเกรน ได้

วิธีรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

ทั้ง แคลซียม และ แมกนีเซียม สารอาหารที่ดีในการช่วยป้องกันอาการไมเกรน คือพวกมันจะไปบำรุงระบบหลอดเลือดและการทำงานของสารสื่อประสาท ยังมีรายงานด้วยว่าคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับไมเกรนมักจะมีอาการขาด แมกนีเซียม และทั้ง แคลซียม และ แมกนีเซียมเป็นสารอาหารที่สามารถรับประทานได้ต่อเนื่องได้โดยไม่มีปัญหา

นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอีก 3 ชนิดที่ช่วยป้องกันและลดโอกาสเกิดอาการไมเกรน

ตัวหนึ่งนั้นคือ Feverfew มันจะไปยับยั้งการขยายตัวของหลอดเลือดเล็กๆ ในสมอง ตัวถัดมาคือ 5-HTP มันจะไปช่วยเพิ่มปริมาณ Serotonin ในสมอง ที่จะสามารถยับยั้งการเกิดไมเกรนได้ สุดท้ายก็วิตามินบี2 (Riboflavin) ซึ่งจะช่วยการสร้างเซลของหลอดเลือด ทั้ง 3 ตัวนี้สามารถใช้ร่วมกันหรือรับประทานตัวใดตัวหนึ่ง โดยควรจะรับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 3 สัปดาห์ซึ่งยังไม่มีการทดสอบในกลุ่มผู้ป่วยไมเกรนและมันมีผลต่อการสร้าง Serotonin เช่นกันก็มีบางท่านเชื่อว่ามันน่าจะมีผลดีคล้ายกับการรับประทานยากลุ่มรักษาอาการซึมเศร้า (Antidepressant) ถ้าจะรับประทาน St. John's wort ต้องรับประทาน 900 มิลลิกรัมติดต่อกันอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์จึงจะเห็นผล

วิธีการรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยไมเกรน

อาหารบางชนิดที่เรารับประทานเข้าอาจจะมีสารบางอย่างที่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการ ไมเกรน ได้ ดังนั้นผู้มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรค ไมเกรน ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้

1. หลีกเลี่ยงอาหารที่จะกระตุ้นอาการปวด ไมเกรน
อาหารที่มีไทรามีน (Tyramine) ไทรามีนเป็นเอมีนชนิดหนึ่ง พบได้มากในอาหารพวก เนย ชีส ช็อคโกแลต กล้วยสุก ส้ม ไวน์แดง เป็นต้น อย่างไรก็ตามไม่ใช่คนที่เป็น ไมเกรน จะตอบสนองต่ออาหารที่มีไทรามีนทุกคน

สารปรุงแต่งอาหาร สารที่แต่งอาหารบางชนิดก็มีผลเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการ ไม่เกรน ได้ เช่น

สารไนไตรด ไนเตรด ซึ่งจะพบในอาหารพวก เบคอน ไส้กรอก ซาเซมิ แฮม

สารแต่งรส เช่น ผงชูรส แอสปาแตม (Aspatame)

2. ลดการดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน เนื่องจากสารเหล่านี้หากดื่มในปริมาณมากจะไปมีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือดหรือมีผลต่อสุขภาพการนอนหลับได้ ทำให้มีผลต่อการเกิด ไมเกรน ได้เช่นกัน

วันจันทร์, มกราคม 10, 2554

ประโยชน์ของ "งาดำ"

งา เป็นพืชล้มลุก ผลเป็นฝัก มีเมล็ดเล็กๆ สีขาวหรือสีดำ มีการเพาะปลูกมานานเพราะต้องการใช้เมล็ดงานี้เป็นอาหาร เครื่องเทศ และบีบเอาน้ำมันได้ มีการใช้เมล็ดงากันมากเป็นพิเศษในแถบตะวันออกกลาง และเอเชียเพื่อเป็นอาหารเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆมากมาย โดยงา จะมี 2 แบบ คือ งาดำ และ งาขาว นอกจากนี้ ยังมีน้ำมันงาที่นำมาใช้ปรุงอาหาร เพราะมีกลิ่นหอมและกรดไขมันที่มีประโยชน์ ทั้งนี้สารอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดงาล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น

ประโยชน์ และ สรรพคุณของงา

ประโยชน์ ของงาไม่ว่าจะเป็น โปรตีน ที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย คือ กรดอะมิโนเมธิโอนีน นอกจากนี้ เรายังสกัดน้ำมันจากงาออกมาได้อีกด้วย ซึ่งน้ำมันที่ได้นั้นเป็นน้ำมันงาที่มีคุณสมบัติเยี่ยม คือ มีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูง ทั้งกรดไขมันโอเมก้า 3 กรดไขมันโอเมก้า 6 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดคลอเลสเตอรอล จึงช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีกรดไขมันไลโนเลอิค ที่ช่วยทำให้ผมดกดำ บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น

นอกจากนี้ งายังมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า มีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง และยังมากด้วยวิตามินบีชนิดต่างๆ ซึ่งดีต่อระบบประสาท ช่วยทำให้นอนหลับ ร่างกายกระฉับกระเฉง พร้อมกันนั้นยังมีสารบำรุงประสาทด้วย และวิตามินอีเป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยต้านมะเร็ง กลิ่นและรส ของเมล็ดงาคล้ายกับถั่ว องค์ประกอบสำคัญในเมล็ดก็คือน้ำมัน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 44-60% น้ำมันงานั้นต่อต้านการเกิดออกซิไดซ์ได้ดี มีการใช้ในอาหารพวกสลัด หรือเป็นน้ำมันปรุงอาหาร และมาการีนและในการผลิตสบู่ ยา และน้ำมันหล่อลื่น และยังเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางบางชนิด เดิมนั้นงาอาจเป็นพืชพื้น เมืองของเอเชีย หรือตะวันออกของแอฟริกา แต่ปัจจุบันพบได้ในพื้นที่เขตร้อน กึ่งร้อน และร้อนทางใต้ในทุกเขตทั่วโลก

ก่อนสมัยโมเสส ชาวไอยคุปต์ใช้เมล็ดงาป่นแทนแป้งธัญพืช ส่วนชาวจีนรู้จักงามาอย่างน้อยก็ 5,000 ปีมาแล้ว พวกเขาเผาเมล็ดงาเพื่อใช้ทำแท่งหมึกจีนที่คุณภาพดี ส่วนชาวโรมันบดเมล็ดงาผสมขนมปังเป็นอาหารรสดี ชาวไทยก็มีขนมที่ใช้เมล็ดงา เรียกว่า ขนมงาตัด ใช้งากวนกับน้ำตาล แล้วตัดเป็นแผ่นในบางถิ่นมี ความเชื่อว่าเมล็ดงามีอำนาจอาถรรพณ์ และยังปรากฏในนิทานเรื่อง อาหรับราตรี ตอน อาลีบาบา กับโจรทั้งสี่สิบ ซึ่งมีคำกล่าวว่า เปิดเมล็ดงา (Open sesame)

ต้น งานั้นมีความสูงระหว่าง 0.5-2.5 เมตร ขึ้นกับสภาพที่ปลูก บางพันธุ์ก็มีกิ่งก้าน บ้างก็ไม่มี ที่แกนในแกนหนึ่งมีดอกราว 3 ดอก เมล็ดนั้นสีขาว ยาวราว 3 มิลลิเมตร เมื่อแห้ง เปลือกเมล็ดจะเปิดอ้า และเมล็ดจะหลุดออกมา การเก็บงาจึงต้องอาศัยแรงงานคนเพื่อมิให้เมล็ดงาร่วงหล่น ภายหลังเมื่อไม่นานมานี้ มีการพัฒนาพันธุ์มิให้เมล็ดแตะกระจาย ทำให้สามารถเก็บด้วยเครื่องจักรได้
ประโยชน์ และ สรรพคุณของงาดำ

ประโยชน์ ของงาดำ และ สรรพคุณของงาดำนั้น งาดำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum orientale L. อยู่ในวงศ์ Pedaliaceae ชื่อสามัญคือ sesame มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศเอธิโอเปีย และถูกนำเข้าไปยังอินเดียและแพร่ต่อไปในจีน แอฟริกาเหนือ เอเซียใต้ และทวีปอเมริกา ซึ่งงาดำมีประโยชน์อย่างมาก การบริโภคงาดำเป็นประจำ จะช่วยให้นอนหลับ กระปรี้กระเปร่า ป้องกันโรคเหน็บชา บำรุงกระดูก ป้องกันอาการท้องผูก ลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดบรรเทาอาการริดสีดวงทวาร และช่วยบำรุงรากผม

ส่วนประโยชน์และสรรพคุณของงาดำ อีกอย่างหนึ่ง คือ ถ้าใช้น้ำมันงาดิบนวดตัวในตอนเช้าก่อนอาบน้ำ จะช่วยปรับระบบประสาทและระดับฮอร์โมน ให้เข้าสู่สภาวะสมดุล ช่วยคลายเครียดทำให้จิตใจสงบ และยังสามารถนำน้ำมันงาดิบไปใช้นวดตัว เพื่อขจัดอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเข่า เล็ดขัดยอก และทำให้กล้ามเนื้อไม่เหี่ยวย่น ดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ อีกด้วย

วันเสาร์, ธันวาคม 25, 2553

ประวัติ ซานตาคลอส


ซานตาคลอส หรือ นักบุญนิโคลัส (ภาษาอังกฤษ: Santa Claus หรือ Saint Nicholas) แห่งเมืองไมรา

นักบุญองค์นี้เป็นสังฆราช ของ ไมรา มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่4 ได้รับการยกย่องให้เป็นซานตาคลอสคนแรก ซานตาคลอส เป็นบุคคลที่สร้างขึ้นมาจากจินตนาการของชาว
คริสต์ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากเซนต์นิโคลัส
เพราะวันหนึ่งท่านปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่งแล้วทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ บังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดี

นักบุญนิโคลาส เป็นนักบุญ ที่ชาวฮอลแลนด์นับถือว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของเด็กๆ เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่งอพยพไปอยู่ในสหรัฐฯ ก็ยังรักษาประเพณีการฉลองนักบุญ นิโคลาส ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งหมายถึงนักบุญนี้จะ มาเยี่ยม เด็กๆ และเอาของขวัญมาให้

เด็กอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของชาวฮอลแลนด์ที่อพยพมา ก็อยากมีส่วนร่วมในประเพณีแบบนี้บ้างเพื่อรับของขวัญ ประเพณีนี้จึงเริ่มเป็นที่รู้จักและแพร่หลายไปในอเมริกา โดยมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง คือ ชื่อนักบุญนิโคลาสก็เปลี่ยน เป็นซานตาคลอส และแทนที่จะเป็น สังฆราชซึ่งเป็นนักบุญองค์นั้นก็กลายเป็น ชายแก่ที่รูปร่างอ้วนและดูใจดี เขามักใส่เสื้อโคทที่ทำจากขนสัตว์สีแดงสดมีคลิบสีขาวที่เอวคาดเข็มขัดหนังและรองเท้าบูทสีดำ ซานตอคลอสอาศัยอยู่ที่
ขั้วโลกเหนือ โดยมี เอลฟ์ ซึ่งเป็นมนุษย์ตัวเล็กที่ช่วยผลิตของเล่นให้เขานำไปแจกเด็กที่เป็นเด็กดีในคืนวัน คริสต์มาส ซานตาคลอสมีพาหนะเป็นเลื่อนหิมะที่ลากโดย กวางเรนเดียร์ ซึ่งสามารถบินได้ ในกลางดึกวันคริสต์มาสซานตาคลอสจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนในโลกนี้ และจะแอบเข้าไปในบ้านที่มีเด็กดีทางปล่องไฟ
เพื่อนำของขวัญไปใส่ในถุงเท้าที่แขวนรอไว้หน้าเตาผิง ให้เด็กเหล่านั้นตามความประพฤติของเขา


วันพุธ, ธันวาคม 22, 2553

สัญญาณเตือน อัลไซเมอร์




ปัจจุบัน ประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะคนมีอายุยืนขึ้น ซึ่งว่าไปแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องดี แต่ก็ยังมีข้อที่น่าห่วงอยู่คือ เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะลดลง ความคิดและการเรียนรู้สิ่งใหม่อาจจะช้าลง โดยเฉพาะอาจเกิดเป็นโรคอัลไซเมอร์

อัลไซเมอร์ เป็นโรคสมองเสื่อมชนิดหนึ่งที่เกิดจากการตายของเซลล์ประสาท โดยไม่มีการสร้างเซลล์ใหม่มาทดแทน ทำให้การทำงานของสมองค่อย ๆเสื่อมลง และในประเทศไทยจะมีจำนวนผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 10 ป่วยเป็นอัลไซเมอร์และมีแนวโน้มที่จะเป็นเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี

อาการที่เป็นสัญญาณเตือน

- สูญเสียความจำในระยะสั้น เช่น ลืมสิ่งที่พูดไปแล้ว

- มีปัญหาด้านการพูด เช่น เรียกชื่อสิ่งของง่าย ๆ ไม่ถูกหรือพูดเป็น ประโยคที่เข้าใจยาก

- ไม่รู้เวลาและสถานที่ เช่น หลงทางทั้ง ๆ ที่ยืนอยู่บนถนนตรงข้ามบ้าน

- มีอารมณ์หรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป เช่น เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวเศร้า เกรี้ยว
กราดอย่างไม่มีเหตุผล

วันศุกร์, ธันวาคม 03, 2553

Friend


- A friend is a tissue when you can't stop crying.
เพื่อน คือ กระดาษซับน้ำ้ตาเวลาคุณร้องไห้้
- A friend is a shoulder when you feel like dying.
เพื่อน คือ ไหลพักพิงเวลาคุณรู้สึกอ่อนหล้า
-A friend always listens when you have something to say.
เพื่อน พร้อมที่จะรับฟังเสมอเวลาที่คุณต้องใครสักคน
- A friend is a sun when the rain just won't stop.
เพื่อน คือ แสงอาทิตย์อันสดในในยามที่ฝนพรำ่ตกไม่หยุด
- A friend is your mom when you run into a cop.
เพื่อน เปรียบได้เหมือนแม่ที่คอยช่วยเหลือเวลาคุณมีเรื่องเดือนร้อน
- A friend is a phone call when you can't leave your home.
เพื่อน คือ เสียงตามสายให้คุณหายเหงาเวลาที่ต้องนั้งแกร่วอยู่บ้าน
- A friend is an ear for a secret to tell.
เพื่อน คือ ผู้ที่คอยรับฟังความลับคับใจที่คุณไม่สามารถบอกใครได้
- A friend is an aspirin when your head hurts like hell.
เพื่อน คือ ยาแก้ปวดขนานดีเวลาที่คุณปวดหัวจนแทบระเบิด
- A friend is a love that can never let go.
เพื่อน คือ ความรักที่่ไม่มีวันเลิกรักได้
- A friend is a week when you need a day.
เพื่อน มีเวลาให้คุณมากกว่าที่คุณต้องการเสมอ
- A friend is a crutch when you have a broken heart.
เพื่อน คือ กันชนหัวใจอย่างดีเวลาที่คุณอกหัก
-A friend is some glue when everything falls apart.
เพื่อน คือ กาวใจเวลาที่คุณรู้สึกว่าทุกอย่างแตกกระสานซ่านเซ็น
- A friend is a hand when you feel all alone.
เพื่อน ให้กำลังใจเสมอเวลาที่คุณรู้สึกเดียวดาย
- A friend is a wing if you want to fly.
เพื่อน คือ ปีกอันแข็งแกร่งในยามที่คุณรู้สึกอยากโบยบิน
-A friend understands without knowing why.
เพื่อน เข้าใจคุณ โดยปราศจากงื่อนไข